วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อ้วนจ๋า พี่ลาก่อน... แชร์ประสบการณ์ ลองผิดลองถูก มากับคำว่า 'ลดความอ้วน'

เริ่มเรื่องเลยนะครับ ผมเป็นคนที่เล่าประสบการณ์ ในกระทู้ไม่ค่อยเก่งนัก และนี่เป็นการเล่าประสบการณ์ครั้งแรก เห็นคนอื่นเล่ามาเยอะละ (ถึงตาเราบ้างล่ะ) 5555 


แนะนำตัวกันก่อนเลยนะครับ ผมชื่อ กายครับ และก็ขอ สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคนด้วยนะครับ
ก่อนอื่นตอนเด็กๆเลย ที่บ้านผมเป็นคนที่ตามใจมากมากครับ โดยเฉพาะเรื่องกิน ก็เข้าทางผมซิครับแบบนี้ 555 ถ้าพูดถึงในตอนั้น เรื่องการออกกำลังกาย เรียกได้ว่า ไม่เคยเลยดีกว่า กินแล้ว ก็นั่ง และนอน ตื่นมาก็เป็นแบบเดิม ชีวิตเดิมๆ แบบนี้อยู่หลายปี บางที ในหนึ่งวัน ผมสามารถ กินแฮมเบอเกอร์ได้ ถึง 4 ชิ้น โอ้ว ยังไม่รวมขนม และ น้ำอัดลมต่างๆ (กินเข้าไปได้ไงวะ) เรียกได้ว่าจุดสูงสุดของชีวิตเลยแหละครับ จนที่บ้าน ก็บ่น แหละครับว่าอ้วน แต่เวลาเราจะกินไรก็ ให้หมด เอ๊ะ แปลกๆ นะครับ บ่นเรา แต่ก็ตามใจเรา5555 
.

.

.

.


.

นี่เป็นรูป ตอน ช่วง มัธยมต้นนะครับ ที่อ้วนแบบสุดสุด (บางรูปอาจจะดูเซ็กซี่บาดใจสาวๆนิดนึง5555)


ก็เป็นอย่างที่เห็นแบบในรูปข้างบนที่ผ่านมาแหละครับ อ้วนแบบไม่มีที่ติ อ้วนไม่พอ แถมยังดำอีก ผมยังจำตัวเองในตอนนั้นที่คิดปลอบใจตัวเองว่า ''ไม่อ้วนหรอก แค่ตัวใหญ่ อวบอวบหน่า ไม่อ้วนมากหรอก"หลอกตัวเองทั้งนั้น 55555  
จุดเปลี่ยนของชีวิตใน ณ เวลานั้น  
-เริ่มแรกเลย ทางคุณแม่ แนะนำยาลดความอ้วนตัวนึง  ให้เรากินทุกวันตอนเช้า กินวันละ 1 เม็ด ซึ่งคุณแม่เอามาจากต่างประเทศ (ไม่รู้จะจริงแบบที่คุณแม่บอกแล้วรึเปล่า) ด้วยความที่เราเป็นคนหูเบา ก็เอาสิครับ ทำไงละครับ เชื่อเลยสิครับ ในตอนนั้น บอกว่ายาต่างประเทศด้วย โอ้ว มันต้องได้ผลแน่ๆเลย ดูดี น่าเชื่อถือ   ผมก็เลย กินยาตามที่คุณแม่ได้บอกไว้ ทุกประการ

ผลลัพธ์ที่ออกมา
- ได้ผลจริงๆครับ ผอมลงจริงๆ จากน้ำหนักเกือบ 90ลงมา เหลือที่ 70 พระเจ้า !!! ลงมา 20 โล ภายใน 3 เดือนกว่าๆ 
ปล.ผมอดอาหารควบคู่กันไปด้วย บางทีข้าวเช้า ผมก็ไม่ได้กิน มากินอีกทีข้าวเที่ยง และพอตกเย็น ก็กินนม ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมากมาก ไม่แนะนำเลยอมยิ้ม04อมยิ้ม04

ณ เวลา ตอนนั้น มีความสุขมากมากครับ เปิดเทอมตอน ม.ต้น มา คนทักผมทั้งโรงเรียน ว่าไปทำไร ผอมลงเยอะ บ้างก็ว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน ยิ่งฟังยิ่งมีความสุข ยิ้ม งั้นเรามาดูรูปกันดีกว่าครับ.....

ทรงผมในตอนนั้น อาจจะดู เสี่ยว ไปบ้างนิดนึง ขอภัย ใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ5555


และนั้นแหละครับ... คือความสุขของผม ที่อยุ่ได้ไม่นาน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาครับ หลังจากนั้น ผมมาเผชิญกับปัญหาภาวะ ................. ''โย โย่''
ซึ่งเกิดจากการ ทานยาลดน้ำหนัก และ การที่น้ำหนักของผมที่มัน ลดลงมา อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเป็นจุดพีค สุดๆครับ เห็นอะไรก็กินหมด กินแบบไม่รู้จักอิ่ม ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่ามันกินแล้ว ต้องอ้วน แต่ก็ยังจะยัดเข้าปาก ภายใน 1 อาทิตย์ ผมขึ้นมา 3 โลครับ ตอนนั้นตกใจมาก แต่ก็ไม่แคร์อะไร บางทีผมคิดว่า ผมกินไม่เยอะเท่าไหร่ ใน 1 วัน แต่น้ำหนักก็ขึ้นเอาๆ 
จนท้ายสุด น้ำหนักของผม มาแตะที่ 90 กิโลกรัม ในเวลา เกือบปี ครับ (น้ำหนักเท่านี้ จนถึง ตอนเข้ามหาลัยครับ) 
.

.

.



- ตอนนั้นผมแทบจะไม่รุ้สึกอะไรเลยว่าตัวเอง อ้วน ผมได้แต่ใช้ข้ออ้างเดิมๆ ว่า ''ไม่อ้วนหรอกหน่า เราโครงใหญ่ ตัวใหญ่เฉยๆ ''  
จนผมเริ่มมอง ตัวเองในกระจก ส่องเงา สะท้อนมาที่ตัวผม ผมเริ่มยอมรับความจริง ว่าผมไม่ได้ตัวใหญ่ ผมมันอ้วน ผมไม่ได้โครงใหญ่ ไรเลย ผมแค่ไออ้วนคนนึง ที่เอาแต่ ปลอบใจตัวเองไปวันๆ ณ ตอนนั้น ผมเกิดความคิด ที่เริ่มจะไปเข้าฟิตเนต  ผมจึงขอคุณแม่ ไปสมัครฟิตเนต แห่งหนึ่งครับ พอสมัครเสร็จ เราก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง แล้วแต่อารมณ์ และ ความขี้เกียจครับ  ... 

จุดเปลี่ยนของผม คือ วันนึงผมส่องกระจกครับ แล้วลองมองตัวเองดีดี ผมรู้ตัวละครับ ว่าอ้วน ผมเพล่งมองไปที่หุ่นผม ผมอ้วนซะเหลือเกิน จนผมมาชั่งน้ำหนัก ก็แทบช็อคแหละครับ น้ำหนักผม ปาไปเกือบ 90 ตอนนั้นแย่มากครับ เฟลสุดๆ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ครับ 

แต่ยอมรับนะครับ ในบางที แรกๆ ผมออกกำลังกายก็ไม่ไหว ทั้งหอบ ทั้งเหนื่อย หิวก็หิว  ผมรู้สึกแย่มากมาก ผมรู้สึกไม่ชอบการออกกำลังกาย เอามากมาก แต่ก็เอาชนะใจตัวเองได้ เพราะความอยากผอม ในใจคิดแต่ เอาวะ ไม่ยอมหรอก ตายเป็นตายซิ5555 จนออกไปสักพักก็เริ่มชินครับ 

มาดูรูปกันเลยดีกว่าครับ ว่าจะเปลี่ยนขนาดไหน








รูปนี้ตอนออกกำลังกาย ได้สักพักนึง น้ำหนักค่อยๆลงมาแล้ว 


ลงมาเหลือ 78 KG... 


และก็ลงมาอีก


จนมาถึงทุกวันนี้ครับ ......




น้ำหนัก ปัจจุบัน ผมก็ ขึ้นๆลง 70-72ครับ ไม่เกินนี้ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากครับ เอวจาก 36 เหลือ 30 ครับ
กลายเป็นว่าตอนนี้ผมแคร์ รูปร่างภายนอก กับ เปอร์เซ็น Body fat ไปซะแล้ว 55555 ไม่ได้มาแคร์เรื่องน้ำหนัก
แต่ยังใส่ใจการกินอยุ เหมือนเดิมนะครับ

วิธีการคุมอาหาร
จำไว้นะครับ การคุมอาหาร คือการ ลด ไม่ใช่ งด !!
ผมจะคุมอาหารครับ ด้วยการนับแคลลอรี่ ต่อวัน  และพยายาม ทานคาร์โบไฮเดรต ให้เหมาะสมกับร่างกายไม่มากเกินไป  และควบคุมปริมาณไขมันครับ และจะเน้นนอาหารที่มีโปรตีน จำพวก ไก่ ปลา เป็นต้น ส่วนขนม ผมจะมีบ้าง บางเวลาครับ แล้วแต่วัน 
ส่วนตารางอาหาร ผมไม่มีหรอกครับ เพราะชีวิตประจำวัน คนเราไม่เหมือนกัน ผมจะเลือก ที่จะรับประทานแทนเอาครับ อะไรที่ทานแล้ว อ้วนก็เลี่ยง ปริมาณที่เหมาะสม *ความเห็นส่วนตัว ผมว่าตารางอาหาร มันเหมือนกรอบขวางกั้นเราครับ เราอยากกินอะไร ก็กินได้ครับ แต่เราเลือกที่จะกิน กินให้พอเหมาะ กับร่างกาย ที่เราต้องการ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป  * ออกกำลังกายควบคู่ด้วย
แต่ก็ผมก็ไม่เคร่งครัดอะไรขนาดนั้นนะครับ ผมจะมี 1 วันที่ ทานตามใจปากได้ คือ วันอาทิตย์ หรือ  cheat meal เลือกที่จะทานอะไรก็ได้ตามใจปาก 1 มื้อ ครับ เพื่อไม่เป็นการ กดดันตัวเองจนเกินไป ฮ่าๆ 
***การลดความอ้วนของผม ไม่ได้มีการ อดข้าวแต่อย่างใด นะครับ ผมทานอิ่มทุกมื้อ นอนหลับสบายทุกมื้อ โดยไม่ต้องหิวโหยกลางดึก **

วิธีการออกกำลังกาย
ผมจะเล่นเวทควบคู่กับการคาร์ดิโอนะครับ ส่วนมากจะเน้นวิ่ง 30 นาที เป็นอย่างต่ำ 4 วัน/สัปดาห์นะครับ  ถ้าใครอยากได้ตารางเวท ลอง เซิทกูเกิ้ลได้ครับ มีให้เลือกมากมาย 
แต่โดยส่วนตัวแล้วการเล่นเวท สำคัญนะครับ ทุกคนควรเล่นเวทนะครับ เพราะการมีกล้ามเนื้อ ผมว่ามันช่วย เรื่องการเผาผลาญไขมันนะครับ และยังทำให้สัดส่วนดูเฟริมด้วย


ปิดท้ายเลยนะครับ ผมอยากจะขอฝากกำลังใจ ถึงชาว pantip ทุกคน และทุกคนที่เข้ามาอ่าน ว่า การลดความอ้วน ไม่ว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ ทั้งอาหารเสริม และ ยา ผมว่า ไม่ได้เป็นทางออกของคนอยากผอมแบบถาวรนะครับ ทางออกที่ดี ที่สุดคือการออกกำลังกายครับ ได้หุ่นที่ดีไม่พอ ยังได้ สุขภาพที่ดีด้วย และอย่าลืมคุมอาหาร ควบคู่ด้วยนะครับ ยิ้ม

ส่วนใครอยากจะปรึกษาผม เรื่องการลดน้ำหนักยินดีนะครับ facebook : Guy worawat

**จบแล้วครับ จากการแชร์ประสบการณ์ของผม ถ้ามี ข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยทุกคนใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


ขอบคุณที่มาจาก Pantip
Cr. สมาชิกหมายเลข 2273757

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อาหารคลีน เมนูคลีน โค-ตะ-ระทำง่าย ฉบับเด็กหอเบี้ยน้อยหอยน้อย แค่มีกระทะเทฟลอน อะไรๆก็ง่ายขึ้นเย๊อะ

ปังปิ้งกล้วยหอม
                                    
                                    
                                    
                                             
-ขนมปังโฮลวีตปลายแถว 2 แผ่น
-เนยถั่ว
-กล้วยหอม 1 ลูก
วิธีทำ: ทาเนยถั่วลงบนขนมปังทั้งสองด้าน หั่นกล้วยหอมเป็นแว่นๆแล้ววางลงบนขนมปังให้เต็ม นำขนมปังอีกแผ่นมากดทับให้แน่น จากนั้นนำไปจี่บนกระทะเทฟลอนจนหอม นำมาหั่นเป็นอันเสร็จพิธี


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.สมาชิกหมายเลข 1796117

ลดความอ้วน ปฏิวัติตัวเอง...ลดน้ำหนัก 10 โล ภายใน 6-8 เดือน

ลดความอ้วน ปฏิวัติตัวเอง...ลดน้ำหนัก 10 โล ภายใน 6-8 เดือน



เปลี่ยนและปฏิวัติตัวเองจากน้ำหนัก 60-62 กก...สูง 164 มาเป็น 50-52 กก.
ภายในเวลา 6-8 เดือน
โดย
1.เปลี่ยนวิธีการกินใหม่ทั้งหมด..จากไม่ทานข้าวเช้า ก็ต้องทาน
อาหารกลางวันปกติ..อาหารเย็นลดแป้งครึ่งนึง ทานก่อน 1 ทุ่ม..
ไม่ทานขนมจุกจิก
2.เล่นโยคะวันละ 15-20 นาที อาทิตย์ละ 3-5 ครั้ง
เดินมากขึ้น เร็วขึ้น วันนึงไม่ต่ำกว่า 5 กม.
เดินขึ้น-ลงบันไดแทนการขึ้น-ลงลิฟท์(จนเพื่อนๆว่าบ้าพลัง)
3.อดทน..อดใจ ไม่ชั่งน้ำหนักบ่อยๆ..ตามใจตัวเองบ้างด้วยเค้กซักชิ้น
เดือนละ ครั้ง-2 ครั้ง
4.ดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิธรรมดาวันละ 2-3 ลิตร
5.หลังอาหารไม่ดื่มน้ำทันที รอให้กะเพาะย่อยอาหารซัก 15-30 นาทีแล้วถึง
ดื่มน้ำ..น้ำอุณหภูมิปกติเท่านั้น ไม่ดื่มน้ำเย็น
เพราะน้ำเย็นจะไปทำให้ไขมันที่อยู่ในอาหารจับตัวเป็นก้อน..
6.หลีกเลี่ยงน้ำหวาน  น้ำอัดลม ทานผัก-ผลไม้สดเท่านั้น
เลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบมากเช่น ทุเรียน ลำไย เงาะ องุ่น
7.ใช้ตัวช่วย อาหารเสริมหรือวิตามินเท่าที่จำเป็น ^^

ที่สำคัญ..ห้ามเครียดเด็ดขาดค่า^^


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.สมาชิกหมายเลข 727912

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อาหารคลีน รีวิวทำน้ำสลัดน้ำใส (มีสูตรเบสิคปรุงแต่งเพิ่มได้ค่ะ)

อาหารคลีน รีวิวทำน้ำสลัดน้ำใส (มีสูตรเบสิคปรุงแต่งเพิ่มได้ค่ะ)

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้รีวิวอาหารกระทู้แรกเลย
ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารแก้เครียด แล้วน้ำสลัดก็หมดพอดี วันนี้จะให้ทุกท่านพบกับบบบบ

น้ำสลัดน้ำใส ! 
(ส่วนผสมบวกลบ หรือเพิ่มเติมทั้งอัตราส่วนและส่วนประกอบได้ตามชอบนะคะ แต่อันนี้เป็นเบสิค ที่เราว่ามันโอเคเลย)

หัวใจหัวใจหัวใจ
ส่วนผสม(ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะว่าไม่คิดว่ามันจะอร่อย)
น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล 1 ขวด
น้ำมันมะกอก extra virgin
น้ำตาลอะไรก็ได้ตามชอบ
เกลือ
มะนาว
หอมแดง หอมแขก(เราใช้หอมแขกค่ะเพราะในบิ๊กซีราคาดูคุ้มกว่าหอมแดง แหะๆ)
กระเทียม

โดยวิธีทำของเรานะคะ
1.หาชามมาใบนึง ใส่น้ำส้มสายชูลงไป 18 ช้อน
2.หั่นมะนาวครึ่งซีกแนวนอนบีบลงไปสองลูกเลย
3.ใส่น้ำมันมะกอก 3 ช้อนพอ
4.เกลือ 1 ช้อน น้ำตาล 3 ช้อน
5.สับๆหอมแขก 2 กลีบ(กลีบรึป่าวนะ ลูก ชิ้น เอ้ะ ไม่รู้จะใช้คำไหน 5555555) ใส่ลงไป
6.สับกระเทียมด้วยถ้าชอบนะคะ เราชอบมากกก ใส่ลงไปประมาณ 20 กลีบ (กระเทียมอันเล็กนะคะ)
7.คนๆๆๆๆๆ ใส่ลงไปในกระบอกเก็บ หรือขวดโหลชิคๆก็ได้ เขย่าๆๆๆ
8.สำเร็จแล้วค่า น้ำสลัดสูตรเบสิค ง่ายๆ ประหยัดกว่าซื้อนะคิดว่า 555555



ขอบคุณที่รับชมค่า


ขอบคุณที่มาจาก Pantip
Cr.อะไรก็ไม่รู้

ลดความอ้วน : รีวิว หนูค่อยๆ ลดความอ้วน จากเกือบ 70 เหลือ 51 ค่ะ

ลดความอ้วน : รีวิว หนูค่อยๆ ลดความอ้วน จากเกือบ 70 เหลือ 51 ค่ะ


ตึง! เห็นภาพด้านบนแล้วอย่าเพิ่งตกใจกันนะคะ นั่นเป็นสภาพหนังหน้าตอนที่พิมพ์เข้าปี 1 แรกๆ ช่วงนั้นน้ำหนักก็ประมาณ​ 67 นี่คือค่ากลางแล้วนะคะ ที่จริงพิมพ์อยากจะเอารูปเต็มตัวมาให้ดู แต่ดันไม่ค่อยมีซะนี่สิ จำได้ว่ามีช่วงนึงอายที่จะเอารูปสมัยอ้วนๆ มาโชว์ เลยลบแท็กของเพื่อนกับรูปหายไปจนหมด แต่ถ้าเห็นสภาพหน้าคงจะรู้แล้วว่าอ้วนมาก ดูจากโหนกแก้ม เนื้อที่ขึ้นมาปิดตา ซึ่งพิมพ์เป็นคนตาโตมาก ไอ้เนื้อที่ปิดที่ อาศัยระยะเวลาและเงินเยอะที่เดียวกว่าจะเปลี่ยนเป็นไขมันแล้วมาสะสมได้ขนานนี้

ก่อนอื่นมาพูดถึงสาเหตุที่เอามารีวิวกันก่อนนะคะ เนื่องจากมีคน เพื่อน รุ่นน้อง คนรอบข้างที่มองเราอยู่อย่างห่างๆ มาเป็นระยะเวลานาน เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปีหนึ่งยันตอนนี้ ก็ปีสี่แล้ว พวกเค้ามักจะถามถึงวิธีการลดความอ้วนของพิมพ์ว่า เฮ้ย ทำยังไงวะ เฮ้ย ทำได้ไงวะ เฮ้ย เอาอะไรมาเป็นแรงบันดาลใจวะ จนสักครู่ มีคนมายุยงว่า ทำรีวิวเถอะพิมพ์ เราก็ เอ้อ ทำก็ทำ

ยังไงพิมพ์ก็ขอให้กระทู้นี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังคิดจะลดความอ้วน คิดแล้วยังไม่ได้ทำ คิด ทำไปแล้วแต่ไม่สำเร็จสักที หรืออาจจะอยู่ระหว่างลดความอ้วน ซึ่งอันดับแรก ก่อนจะลดต้องมาเข้าใจ มารู้จักตัวพิมพ์กันก่อนนะคะ

พิมพ์เป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ อยู่หาดใหญ่ สงขลา เรียนอยู่ในโรงเรียนหญิงล้วนพักหนึ่งก่อนที่จะมาเรียนโรงเรียนสหะ โดยที่โรงเรียนเนี่ย จะมีแฟชันฮิตๆ กันคือการอ่านหนังสือและเขียนนิยายค่ะ ทำให้ระหว่างอ่านไปหรือเขียนไป ปากเราก็จะขยับตลอดเวลา มีช่วงเวลาที่แรงบันดาลใจกำลังสุกงอมเต็มที่ อยากเป็นนักเขียน เราก็ตะลุยเลยค่ะ กิน นั่ง ไม่ขยับ และเขียนนิยายอัพลงอินเตอร์เน็ต เราใช้เวลาอยู่ในห้องนอน โรงเรียน หนังสือ จินตนาการ ไปเรื่อยๆ จำไม่ได้ว่าเริ่มอ้วนเมื่อไหร่ แต่มาเห็นตัวเองอีกทีนึง ก็อ้วนไปแล้ว (ภาพด้านบนน่าจะอธิบายช่วงเวลาตอนมอหกได้ดี เพราะเป็นภาพช่วงประมาณปีหนึ่งค่ะ ก็ประมาณนั้นมาตลอด) 

มีช่วงหนึ่งที่พิมพ์ออกกำลังกายอย่างหนัก (ช่วงนั้นจะมาดูคอนเสิร์ต Super junior ค่ะ) เราได้ซื้อบัตรยืนไป ทำให้คุยกับเพื่อนว่า เราต้องออกกำลังกายนะ ไม่งั้นจะมาดูคอนฯ ไม่ไหว ร่างกายมีแต่จะแข็งแรง ถึก และบึกบึนขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะลดเลย (เราใช้วิธีวิ่งรอบอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัยแถวบ้านและเต้นแอโรบิกค่ะ) ขณะที่คนที่ไปเต้นแอโรบิกที่ยืนถัดไปประมาณสามคน สามเดือนผ่านไปเขาผอมลงแล้ว!

เลยเกิดความสงสัยว่า เฮ้ย ทำไมฉันไม่ผอมสักทีวะ -_- หรือว่าการออกกำลังกายอาจจไม่ได้ผลกับเราอะไรงี้ 
เลยหยุดออกกำลังกายและออกกำลังปากมากขึ้น คิดว่าชาตินี้คงผอมไม่ได้แล้วล่ะ เย้ (ความอ้วนจงเจริญ)


ลืมบอกไป ก่อนที่พิมพ์จะขึ้นมากรุงเทพ เพราะเรียนหญิงล้วนเนี่ย ทำให้พิมพ์มีพฤติกรรมห้าวๆ กว่าที่ควรจะเป็น แต่ถามว่าเป็นทอมเลยมั้ย มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น คือ สมัยนั้น ในโรงเรียนหญิงล้วน ต่างจังหวัด เรานิยมใส่กางเกงยีนส์ขาใหญ่ๆ ยาวลากพื้นกันค่ะ ไม่ว่าคุณจะทอม ไม่ทอม เราใส่แบบเดียวกันหมด จนกระทั่งย้ายโรงเรียน เราก็กลัวจะโดนแซว เลยพยายามคุมเชิงให้เป็นแบบเดิมเหมือนกับที่เรียนมอปลายมา (เราเรียนหญิงล้วนประมาณ 9 ปี ค่ะ) เราคุมเชิงจนกระทั่งมาเรียนมหาวิทยาลัย และก็เจอผู้ชาย ซึ่งหล่อมากกกกก!!!

เฮ้ย นี่แหละเทิร์นนิงพ้อยท์ 555555+ หลายคนอาจจะหาว่าเราบ้าผู้ชาย ก็มันไม่เคยได้บ้ามาก่อนในชีวิตนี่คะ แต่ตอนเจอ เราไม่คิดว่าจะลดความอ้วนหรืออะไรหรอกนะคะ เพราะที่บ้านบอกว่า อุ้ย แบบนี้น่ะพอดีแล้ว ใครๆ ก็จะปลอบใจเราด้วยคำโกหกว่าเราไม่ได้อ้วน (จะเหยียบเจ็ดสิบแล้วนั่น) จนมาเจอปากที่เป็นทั้งมือทั้งเท้า ผลักและถีบเราค่ะ เค้าด่าเราว่า ชอบ.... เฮ้ย นั่นมัน XU Cuteboy เลยนะ ไม่เจียมเบย เราโมโหมาก แล้วไหนที่บ้าน แม่ เพื่อนพี่น้องบอกว่า เฮ้ย แกสวยนะเว้ย พอดีแล้ว ไม่เห็นอ้วน ไหนล่ะ ไหนวะ ไหนนนนนนน =[]=!!! ?


เราปฏิวัติตัวเองอย่างจริงจังเลย ด้วยความที่เราค่อยข้างเซนส์สิทีฟด้วยมั้ง เราเลยอดข้าว กินยาลดด้วย บลาๆ หลายอย่าง จนกระทั่ง! ตาย...
ล้อเล่น! จนกระทั่งเพื่อนไม่คบค่ะ สำหรับคนที่ลดความอ้วนแล้วคิดจะพึ่งยานะ เรารู้ว่าอ่านรีวิวแบบนี้ไปก็ยังมีคำถามในใน จริงเหรอวะ เฮ้ย เอ๊ะ มันอาจจะต้องเจอกับตัวเอง แต่ยามีผลต่อสุขภาพและพฤติกรรมมากๆๆๆๆๆๆๆ ทำให้จากที่เราเคยเป็นคนอารมณ์ดี ก็อารมณ์แย่อ่ะ คือเป็นคนที่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย เราหมกมุ่นกับการลดความอ้วนมากเกินไป เรียกว่าใช้สายสุดโต่งไปเลยอ่ะ จนมีเพื่อนที่น่ารักและปราถนาดีมาเตือนเรา เราเป็นคนที่รับฟังอยู่แล้ว เลย...โอเค เปลี่ยนใหม่ 

ส่วนเรื่อง XU Cuteboy เราลืมเขาไปนานแล้วระหว่างที่ลดความอ้วน ตอนนี้เราคิดจะเริ่มกินอีกครั้งเพราะไม่มีแรงบันดาลใจ ดาราที่ชอบก็หายเข้ากลีบเมฆเพราะเราเลิกที่จะสนใจอะไรพวกนั้น มาสนใจแต่เรื่องตัวเอง ออกกำลังกายเราก็วิ่งรอบมหาลับบ้าง ไปฟิตเนสของมหาลัยบ้าง มันก็ยังไม่ลด เราแบบ บางทีถึงขั้นไปบนบาลศาลกล่าวเลยนะ "ให้ลูกช้างผอมลงด้วยเถอะ จะไปทำบุญให้" โน้นนี่นั่นสารพัด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ช่วยหนูเบยยยยย~ (เป็นไคลซิสของลดความอ้วนสตอรีเลย ช่วงนี้)

จนกระทั่งแม่มาบอกว่า เฮ้ย พิมพ์ หยุดเถอะ เดี๋ยวแม่จัดคอสให้เอง (ไลค์แม็ก 555+)
แม่คุยกับเรานานมากเรื่องการลดความอ้วน เค้าเห็นเราทำมันจริงๆ เค้าเลยอยากช่วย อันดับแรก แม่บอกว่าเราต้องปรับทัศนคติก่อน อยากผอมเพราะอะไร ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะผอม แม่ก็ถามเรา แต่เราจะตอบแม่ได้ยังไงล่ะ ว่าอยากผอมเพราะผู้ชายค่ะแม่ เย้ (5555+) แต่ด้วยความที่บ้านเรามีพื้นเพที่หัวเข่าไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ทำให้พูดความจริงไปไม่หมดว่า อ๋อ เจ็บหัวเข่ามากเลยแม่ แม่ก็เก็ต แล้วเข้าสู่กระบวนการ


(น้ำหนักประมาณ 61-65)

หลังจากเปลี่ยนทัศนคติแล้วว่า ฉันจะผอมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น (ตามเท่าที่แม่รู้) แม่ก็บอกว่า สิ่งที่เราต้องทำคือเปลี่ยนพฤติกรรมการกินค่ะ จากเป็นเพื่อนสนิทกับเซเว่น ก็ต้องบอกว่า เราห่างกันสักพัก ออกกำลังกายตามเท่าที่ออกได้ เราไปเล่นบาสกับเพื่อนบ้าง เริ่มออกจากบ้าน ใช้วิธีการเดินเข้ามหาวิทยาลัยและซอยหอด้วยกันเดินแทนที่จะนั่งรถ กระโดนเชือก 200 ครั้งเป็นอย่างต่ำ กินผักผลไม้ที่ไม่มีแป้ง เราต้องรู้ว่าความอ้วนมาจากอะไร แม่บอกว่า แป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล แล้วน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นไขมัน! เพรางั้น ให้เลิกของหวาน นำ้หวาน โดยเฉพาะน้ำอัดลม ทันทีที่เราลดน้ำอัดลม น้ำหนักเราลดทันทีเลย


(ประมาณ 59-60)


น้ำอัดลมนี่สำคัญมาก! หลังจากน้ำเราก็เริ่มดื่มน้ำเยอะตามคำสั่งแม่ กระโดดเชือกไม่ขาดวันละ 200 เล่น ฮูลาฮูครึ่งชั่วโมงทุกวัน ซื้อแผ่นเต้นแอโรบิกมาเต้นเอง 30 นาทีเป็นอย่างน้ำ และ ทำดีทอร์ก =_=



(เขินจัง เอาสายเสียบก้น -///-)

เราซื้อมาแบบ ทำเองที่บ้านเลยนะ ไม่ได้ไปทำที่ร้าน เรารู้สึกว่า เฮ้ย เวลาออกกำลังกายเนี่ย ร่างกายมันเหงื่อออกเร็วขึ้นว่ะ ดูแบบ ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น แม่เราบอกให้หาแปรงมาขัดตามผิวเพราะมันจะไปกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานดี ทุกอย่างมันดีขึ้นหมดเลยยยยยยย (ขณะที่เราทำดีทอร์ก เรายังคงกินข้าววันละสองมื้อ ลดแป้ง น้ำตาล กินน้ำเยอะๆ เดินเข้ามหาวิทยาลัย เล่นบาสเก็ตบอล หรือบางวันอาจจะไปฟิตเนส เล่นฮูลาฮูบ) เราทำแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือนเลย จนตอนนี้เราน้ำหนัก 51 กิโลกรัม 


รูปนี้ปีสองค่ะ ดูขานะ 


(อันนี้เป็นรูปที่ถ่ายเล่นกับเพื่อนๆ ค่ะ เลยมีพ้อยท้งพ้อยเท้า - อ้วนน้อยลงแล้ววววว)


(เจอและ อันที่เห็นขา , พิมพ์ไม่มีรูปออริจินัล)


(ผอมแล้วหน้าจะหายบานด้วย เย้ )

ตึง!!! หัวเราะ
สาวๆ ห้องแป้งคนไหนที่กำลังลดความอ้วนเห็นแล้วก็ขอให้มีกำลังใจนะคะ เราอยากให้ทุกคนสุขภาพดี (อย่างที่แม่เข้าใจ 5555+) พอเราผอมแล้ว ทัศนคติในการใช้ชีวิตที่แบบ อุ้ย ฉันโคตรอยากสวยมากๆ ใช้ชีวิตเพื่อการอยากสวยก็จะเปลี่ยนไปด้วยนะ ความผอมทำให้เรามั่นใจขึ้น ซึ่งความมั่นใจเนี่ย จะทำให้เรามีเสน่ห์มากขึ้นโดยไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเหมือนแต่ก่อน ก่อนไปเราอยากฝากเรื่องการเปลี่ยนทัศนคติ พฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย การเลิกพึ่งตัวช่วย (ตั้งแต่ยาลดความอ้วนไปจนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์) ถ้าเราจะลดความอ้วน เราต้องเริ่มที่ใจ แล้วไปที่สมอง นะคะ อย่าสักแต่ว่าจะให้ลดอย่างเดียว ไม่งั้นต่อให้เราลดลงมาแล้ว เราก็ไม่มีความสุข สุขสันต์วันผอมค่า





edit wed MAY 13 2015 
เข้ามาอ่านกระทู้ตัวเองเวลานี้แล้วขำมาก, ยังขำอยู่เลยว่าตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ 
> ตอนนี้เราไม่ได้ผอมขนาดตอนที่ตั้งกระทู้แล้ว แต่ก็ไม่ได้อ้วน สำหรับชีวิตตอนก่อนจบ เพิ่งจบ กับชีวิตตอนทำงานแล้วมันต่างกันจริงๆ เราพอจะเข้าใจอย่างไม่มีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นยังไง แต่การออกกำลังกายทุกวันไม่ใช่ตัวเลือกเดียวสำหรับลดความอ้วน พ้อยหลักๆ เป็นเรื่องอาหารซะมากกว่าตอนนี้ สำหรับตอนนี้ เวลาก็ผ่านมาเยอะจากตอนตั้งกระทู้ เราไม่ได้เคร่งครัดเหมือนตอนนั้น ให้โควต้าตัวเองกินอะไรที่ชอบ แต่ก็จะไม่กินมันเยอะเกินไป 
> แต่การออกกำลังกายสำคัญในแง่ของรูปร่างและกระชับสัดส่วน อาทิตย์นึงออกได้สักชั่วโมงก็ยังดี 
> เรียลไรซ์ได้ว่า ช่วงเวลาที่ยากที่สุดไม่ใช่ตอนกำลังลดความอ้วน แต่เป็นตอนรักษารูปร่างมากกว่า อยากบอกคนที่ลดความอ้วนว่า ลดแล้วมันต้องลดทั้งชีวิตจริงๆ คนที่อ้วนอย่างเราๆ ร่างกาย เมตาบอลิซึมไม่เหมือนกับคนผอม ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ลดได้คงที่แล้วอย่ากริ่มใจ มีเหมือนกันช่วงที่เราขึ้นไปเกือบ 60 หลังจากตั้งกระทู้นี้ และค่อยๆ ลดลงมา (เป็นคนที่ชอบลดแบบเอื่อยๆ ไม่รีบ)
> แต่วิธีการลดความอ้วนที่ดีที่สุด (ความจริงมันใช้ได้กับทุกเรื่อง) ต้องมีการตั้งเป้าหมายระยะสั้น กลาง ยาว การลดเรื่อยๆ ทำให้กำลังใจเราหายเร็วกว่าการมีเป้าหมาย 
> การอ้วน ตัดแง่ของสุขภาพไป ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีหากเราพอใจกับความอ้วนของตัวเอง แต่หากเราไม่พอใจกับความอ้วนตัวเองและพร่ำบ่นว่า คนอ้วนจริงใจกว่า ไม่มองคนที่รูปลักษณ์ ทำไมสังคมนี้ไม่มีที่ยืนให้คนอ้วน และบอกว่าเฝ้ารอคนที่จะมองเราด้วยความจริงใจ / ความคิดส่วนตัวเราคิดว่ามันคือการพร่ำบ่นของคนขี้เกียจที่ไม่ยอมพัฒนาตัวเอง เพราะสุดท้าย เรานี่แหละที่จะได้ผลประโยชน์จากมัน 
จะเข้ามาเพิ่มเติมปีหน้าอีกครั้ง ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกระทู้ค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.PIMGOGH

รีวิว ลดน้ำหนักใน 3 วัน !!! รีดไขมันหลังเพลินกับปาร์ตี้ปีใหม่จ้าา

รีวิว ลดน้ำหนักใน 3 วัน !!! รีดไขมันหลังเพลินกับปาร์ตี้ปีใหม่จ้าา

สวัสดีปีใหม่นะคะเพื่อนๆ ปีใหม่ไปเที่ยวกันมาบ้างคะ เมว่าหลายๆคนคงสนุกกับการกินอาหารจนน้ำหนักขึ้นเป็นแน่ 55 เราก็เป็นหนึ่งในนั้น
วันนี้เลยจะเอาวิธีการลดน้ำหนักที่เมย์เคยทำแล้วได้ผลมาฝากเพื่อนๆกันค่าา จริงๆสูตรนี้เมเคยเขียนลงบล็อกและแชร์ให้กับเพื่อนในแฟนเพจไปแล้ว (fb page : me.melissa) แต่ช่วงนี้คิดว่าคงต้องกลับมาใช้สูตรนี้อีกครั้ง ก็ปีใหม่เพลินไปหน่อย แหะๆ และน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆนะคะ 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าสูตร 3 วันนี้ เมย์เอามาจากอินเตอร์เน็ท ซึ่งหลายคนคงเคยเห็นกันบ้างแล้ว
มีมากมายหลายสูตร 3, 5, 7, 30 วัน ส่วนใหญ่สูตรพวกนี้จะมาจากต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ก็เคยๆอยากลอง แต่พอเห็นเมนูแล้ว ช่างยุ่งยาก น้ำหนักเป็นออนซ์ อาหารบางอย่างก็ไม่รู้จะหาจากไหน เลยไม่เอาดีกว่า แต่พอดีไปเจอบล็อกนึง เค้าลองกินตามสูตร 3 วัน ในรีวิวก็บอกที่ซื้อซึ่งหาได้ง่าย และราคาไม่แพง บวกกับตอนนั้นเมย์น้ำหนักขึ้่นและ อีก 3 วันต้องไปงานพอดี เลยขอสู้ซักหน่อย

หัวใจ ก่อนดูสูตรอาหาร ขอบอกรายข้อมูลส่วนตัวก่อนละกันเนอะ

หนัก 47.5 กก (ปกติจะ 44-45กก.) 
สูง 160 ซม. เอว 22-23 นิ้ว สะโพก ตอนผอม 34นิ้ว อ้วน 36 นิ้ว 

แฮมเบอร์เกอร์ พฤติกรรมการกิน 

ตามใจปาก อยากกินก็กิน บางทีไม่หิวก็กิน ว่างก็กิน เบื่อก็กิน กินทุก ชม. ตั้งแต่ตื่นจนก่อนนอน กินหนักกินเบา บุฟเฟ่ต์ได้หมด 
อาหารปกติที่กินจะหนักช่วงกลางวันและเย็น เพราะเช้าไม่ตื่น
ส่วนใหญ่หนักเย็นมากกว่า บางทีบุฟเฟ่ต์สัปดาห์ละ 2 ครั้งขึ้นไป ไม่รวมกับฟาสฟู้ด mc kfc สัปดาห์ละ 2 ครั้งขึ้นเช่นกัน และมักจะโทรสั่งช่วง 3 ทุ่ม -*- และว่างๆก็มักอยากกินแมกนั่มอีก TT สรุปที่กินก็มักจะเป็นของทอด นม เนย ช็อคโกแลต ขนมปัง แป้ง ... ไม่ชอบกินผัก

**ไม่ชอบออกกำลังกายอย่างแรงงง ถ้าจะลดคือยอมอดข้าวไปเลยดีกว่า**

แย่ การลดน้ำหนักที่เคยลองมา

- ลดอาหารเย็น .. ทำได้ไม่เกิน 3 วัน เล่นคอมดึกๆก็หิว และคว้ามือถือกดสั่ง KFC จบข่าว 
- กินมื้อละน้อยๆ .. เมื่อได้เข้าปากคำแรกแล้ว มันเคยหยุดได้ที่ไหนเล่า ปัดโถ่ - -
- กินอาหารเสริม .. ก็ลงจริง แต่ระหว่างกินก็จะคอแห้ง หิวน้ำ ฉี่บ่อย เหมือน นน. ที่ลง เพราะน้ำในร่างกายหายไปมากกว่า เลิกกินอาหารเสริม ก็ตะบะแตกเหมือนเดิม





ประหลาดใจพอบอกว่าไดเอท...คนอื่นชอบคิดว่าอ้วนตรงไหน!!!

(รุปข้างบน นน.ประมาณ 47 กก. ขาล่ำมาก ตัวเล็กมาก ดูผิดส่วนสุดๆ TT)
เป็นคนช่วงบนเล็กมากเมื่อเทียบกับช่วงล่าง
เวลาอ้วนผอมจะเปลี่ยนแปลงที่สะโพกลงไป และหน้าออกเล็๋กน้อย
ดั้งนั้นเวลาอ้วนหรือผอมคนอื่นจะดูไม่ค่อยออก ยิ่งเวลาบ่นอ้วน คนอื่นมักจะบอกว่าไม่เห็นอ้วนเลยยยย ลดอะไรอีกกก -*- ก็เวลาเราถ้ายรูปอัพลงเฟสบุค เราก็ถ่ายแต่หน้า และตัวท่อนบน ซึ่งอย่างที่บอกว่าสรีระเราช่วงบนมันเล็ก ผู้อื่นมักไม่เข้าใจในความอึดอัดของช่วงล่างเรา  55


ยิ้ม
สูตร 3 วันนี้ มีกฎเหล็กคือ ห้ามเปลี่ยนแปลงเมนูใดๆ และห้ามปรุงรส เพราะอาหารแต่ละอย่างจะทำปฏิกิริยาบางอย่างกัน ซึ่งเมย์ก็ไม่รู้จริงๆว่ายังไง แต่ดูอาหารแล้วมันก็ปกติ กินได้ ไม่ตาย 55


เมย์กินช่วงวัน พฤหัส-เสาร์ 3วันพอดี วันอาทิตย์ไปงาน
สำหรับคนที่ต้องไปทำงานจันทร์-ศุกร์ แนะนำให้กินในช่วงที่ติดเสาร์อาทิตย์ค่ะ ดูจะสะดวกที่สุดแล้ว 



ดูรูปใหญ่ >>https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgsBqPhdryQSfwymfxctP6hxRxWhXG3o7lkGDleRs8YmQ_mZhBVXzpFAJxW9eP71noZi1Um0m7R9qZgcZgav8h6dRtcJ0IoT4y0zrenAQ3Oyn_g3sG_R8hqOdg2FvHShh1aKc-wG38Pc-A/s1600/11.JPG

วันแรกตื่นมากินมื้อเช้า 9 โมง ซึ่งปกติเวลานี้ไม่ตื่น แต่กลัวกินไม่ตรงเวลาแล้วเดี๋ยวไม่ได้ผลเลยตื่นมากิน 55 มื้อแรกกินได้ทุกอย่าง แต่ไม่ค่อยชอบถั่วในซอสมะเขือเทศเท่าไร มันๆหวานๆ แต่กินไปเรื่อยๆก็ชิน ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ตบท้ายแก้เลี่ยนด้วยส้ม มื้อดีอิ่มกำลังดีค่ะ กว่าจะถึงมื่อกลางวันก็นั่งทำงานหน้าคอมปกติ ไม่ได้รู้สึกหิวอะไร พอเที่ยงก็กินมื้อกลางวัน ทูน่ากระป๋องเดียวเหมือนจะน้อย แต่เอาจริงๆ อิ่มเหมือนกันนะ เราอาจะปรับโดยการเอาทูน่าโปะบนขนมปังเป็นแซนวิชไปเลย แก้เบื่อ 55 กินกลางวันเสร็จ ก็ออกไปเดินซื้อของที่ประตูน้ำค่ะ เดินๆๆๆ ตั้งแต่เที่ยง กลับถึงบ้านมากินมื้อเย็นตอน 1 ทุ่ม ระหว่างนั้นไม่ได้หิวโหยอะไร มาถึงมื้อเย็น มื้อนี้อร่อยค่ะ ทุกอย่างดูจืดชืด แต่กินแล้วอร่อยกว่าที่คิดค่ะ บีทรูทจะหวานๆ คล้ายข้าวโพดต้มเลย ถั่วจะมันๆ แฮมเค็มๆ เข้ากันดีมาก อร่อยติดใจ ตบท้ายด้วย ไอศครีม แฮปปี้ 555 
วันแรกผ่านไปอย่างราบลื่น ทุกมื้ออิ่มแบบสบายๆท้อง ไม่อึดอัดตัว



ดูรูปใหญ่ >> https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoiXHoQfjrPDd4E7Ay5F9hH7m4fjT76Idgn3mGUht2UT57oDt1YfSNM06fw4shKBlSLZa6xIPSXkh9CMJ0AQntrh0zVKxQ6r0nrZaM_ExUjk80knlIKM3mgW_MkKTKCju26yNFkL0tvV0/s1600/22.JPG

วันที่ 2 ก็ตื่นเวลาเดิม เมย์เอาขนมปังห่อกล้วยและไข่ต้มกินพร้อมกัน อร่อยดี ^^ ต่อด้วยมื้อกลางวันที่ดูน้อยนิด แต่ก็อยู่ได้ แต่บางคนอาจจะหิว เพราะมันน้อยไปหน่อย 555 วันนี้บ่ายออกไปทำงานแต่งหน้า เลยต้องห่อมื้อเย็นใส่กล่องไป มื้อนี้ก็อร่อยเช่นกัน ผักกับแฮมเข้ากันเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถพกไอศครีมไปได้ มื้อนี้เลยไม่ได้กินค่ะ  วันที่ 2 ผ่านไปอีก 1 วัน เบาๆ ไม่หิวโหย เบาท้อง ไม่อืด ไม่อึดอัดค่ะ 



ดูรูปใหญ่ >> https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhSBOgHtFZqr6b9SnrkZCfiYQXbNejuJA0iJBW7C3r6P_vesFvTG49uDUCpxhB_u08R_co885y7ZV2KS7zaHj8ntfd31LBRwU9LszRGFBokVSp1Kkub8rvPivGU1EhRkpYYHizTOdepYnY/s1600/33.JPG

วันที่ 3 วันเสาร์พอดี ตื่นมากินมื้อเช้า แอปเปิ้ล 1 ลูกกับโยเกิร์ตช่วยให้อิ่มท้องได้ดีค่ะ เสร็จมื้อเช้า ต้องออกไปตระเวนซื้อผ้าที่พาหุรัด กลัวหิวเลยเอามื้อกลางวันติดไปด้วย เดินๆเหนื่อยๆ แบกผ้าหนักมากๆ หิวตอนนั่งแท็กซี่กลับตอนเที่ยงพอดี ก็เอาขนมปังห่อไข่ต้มมากิน แต่มื้อนี้ไม่ได้กินชาร้อนค่ะ
ถึงมื้อเย็น ก็อร่อยและอิ้มเช่นเคย...

เย่!!! ดีใจ ผ่านไปแล้วสำหรับ 3 วัน!!! เป็นอย่างไรกันบ้าง

อย่างแรกเลย 3 วัน รู้สึกดีใจมากที่ตัวเองทำตามสูตรได้ มีวินัย ไม่ตะบะแตก 55 การที่เรามีเมนูแต่ละมื้อรอไว้ ทำให้ลดโอกาสในการกินอาหารหนักได้จริงๆนะ ปกติวันๆจะมีคำถามว่า เที่ยงกินไร เย็นกินไรดี กว่าจะเลือกกันได้ ก็หิวมาก แล้วก็ทำให้กินเยอะ กินตามใจปาก อาหารแต่ละมื้อที่กิน อิ่มทุกมื้อ ไม่มีหิวระหว่างวันเลย อิ่มแบบท้องไม่แน่น สบายๆ เบาๆตัวดีค่ะ อิ่มท้องแน่น แต่ไม่ต้องแขม่ว มันเริ่ดตรงนี้
ตอนนั้นไม่กล้าชั่งน้ำหนักเลยนะ กลัวมันไม่ลดแล้วผิดหวัง 5555 เป็นพวกยึดติดกับตัวเลข แต่ถึงน้ำหนักไม่ลง ก็ไม่เป็นไร เพราะความรุ้สึกภายในมันแฮปปี้มากกว่า ที่ชนะใจตัวเองได้ ไม่คว้ามือถือโทรสั่ง KFC ตอนดึก ไม่เผลอชิมขนมของเพื่อน ทั้งนี้เรื่องจิตใจสำคัญมาก ใจต้องแข็งกว่าจะเริ่มกินวันแรกได้ อาจจะทรมานใจในการอดกินขนมนิดหน่อย แต่พอครบ 3 วันแล้วไม่ทรมานกาย จากการอ้วนแล้วอึดอัดพุงเลย 555
วันอาทิตย์ต้องไปงานแล้ว ผอมลงมั้ยไม่รู้ แต่รู้สึกตัวเบา ใส่ชุดแล้วมั่นใจ ^^ และแล้วก็ขอชั่งน้ำหนักดีกว่า ตื่นเต้นๆ ฟ๊าบบบบบ 45 กก.
จาก 47.5 กก. ................ ลงไป 2.5 กก. ถือว่าได้ผลตามสูตรเลยค่ะ เพราะเค้าบอกว่าจะลดลง 5% ของ น้ำหนักตัว ที่เมย์คำนวณไว้ตอนแรกก็ประมาณนี้เลย  3 วันเมย์ไม่ได้ออกกำลังกายเลยค่ะ ถ้าคนที่ออกกำลังกายด้วยน่าจะลดเยอะกว่านี้ สัดส่วนลดมั้ย ลดอยู่แล้ว แต่ไม่ได้วัดค่ะ ไม่ได้มากมาย แต่ใส่กางเกงจะไม่ฟิตเหมือนตอนแรก แค่นี้ก็ดีใจละ ยิ้ม

ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์ หลังจากทำสูตร 3 วัน

หลังจากนั้นกินอะไรบ้าง เอาเท่าที่จำได้นะคะ
วันที่ 1 - ไปงาน แน่นอนอาหารต้องน่ากิน 55 วันนี้ก็เต็มที่ค่ะ หมูทอด สปาเก็ตตี้ มาการอง มูสมะม่วง เย็นก็ไปจกส้มตำ วันนี้กินทุกอย่างที่อยากกิน แต่ว่าจะอิ่มเร็วค่ะ 
วันที่ 2 ส้มตำ ขนมจีนแกงเขียวหวาน เย็นฟูจิ
วันที่ 3 - เริ่มกลัว นน. ขึ้น ขอเบาๆ ทูน่ากระป๋อง เย็นผักต้ม แฮม ขนมนิดหน่อย
วันที่4 - นมขนมปัง เย็นข้าวแกงกระหรี่ ขนม
วันที่ 5- อะไรเยอะแยะ จำไม่ได้ค่ะ 
วันที่ 6 - ขนมปัง แยมโรล ไส้กรอกอีสาน สปาเกตตี้คาโบนาร่า ของทอด ไอศครีมมากมาย ขนม (วันนี้แอบชั่งน้ำหนักด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ กลัวกลับมาหนักเท่าเดิม ปรากฏว่าขึ้นมา 1 กก. โล่งอก กินมาเยอะ ขึ้นแค่นี้ยังรับได้ 55 แต่คงต้องเบาลงบ้างแล้วหล่ะ)
วันที่ 7 - ข้าวหมูทอด ผัดวุ้นเส้น ข้าวซอย ซเวนเซ่น ข้าวมันไก่ น้ำแข็งใส ... เอ่อ ควรกินให้น้อยลงหน่อยนะ พยายามบอกตัวเอง หัวเราะD

การทดลองครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนคำถามว่า โยโย่มั้ย บอกได้เลย ลดแบบไหนก็โยโย่ค่ะ ถ้ากลับมากินเหมือนเดิม การเข้าสูตร 3 วัน เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นช่วยปรับนิสัยการกินและวินัยของเราเพื่อให้กินวันต่อๆไปอย่างยั้งคิด ถ้าใครควบคุมได้ต่อไปเรื่อยๆ รับรองว่า นน.คงที่ แต่คงขึ้นมาอีกนิดหน่อยเป็นปกติ แต่คงไม่เท่าเดิม ถ้ากินแต่พอดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความใจแข็งล้วนๆ ขอให้ทุกคนสู้ๆถ้าคิดจะลดนะคะ 



รูปนี้คือหลังจากที่ น้ำหนักลดแล้ว ในรูปดูไม่ค่อยออกว่าผอมลง แต่เพื่อนๆทักว่า หน้าเล็กลง ตัวเล็กลง ยิ้ม


สรุปรายการอาหารทั้งหมด 3 วัน
หาซื้อได้ที่โลตัส หรือซุปเปอร์ทั่วไปนะคะ มูลค่ารวม 3 วันอยู่ที่ประมาณ 400 +- ค่ะ



ดูรูปใหญ่ >> https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjfTjMjInCny7RXCCviollOmCM42y1kXUtCDMdZM5M_6ZEF5U_Hxc0J7XYZtIgxrzLCRPgcpibf5eBf7OcyBOxItxSBT7ijKl1KAxXufGRC7Ai9Hm-iT2KdCSSx26XAEdFQCN0RpCmlNOU/s1600/zzz.JPG

**
Baked Bean ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศ หาได้แถวปลากระป๋องค่ะ ของอะยัม 1 กระป๋อง 240 กรัม
ทูน่าในน้ำแร่ เมย์ลองของ นอติลุส และ ซีเล็ค ส่วนตัวชอบนอติลุส เพราะมีรสชาติมากกว่า
ขนมปังแผ่นและแครกเกอร์ เมย์เลือกแบบโฮลวีทค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตาม และรอคอยผลการทดลองไปด้วยกันนะ มีอะไรก็ถามได้ในแฟนเพจ Me.Melissa นะคะ อะไรที่เขียนแล้วไม่ตอบนะคะ ตั้งใจเขียนให้อ่านกันแล้วเน้อ ^^

**การทดลองนี้เขียนตามความรู้สึกตัวเองและผลที่ได้กับตัวเองนะคะ ใครอยากลองให้ศึกษาข้อมูลที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pantip
Cr.melissa_me

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Hosted Desktops